๑. การใช้จิตวิทยาเชิงบวก
จิตวิทยาเชิงบวก คือ
การบ่มเพาะผู้เรียนให้มีคุณค่าที่ดีงาม โดยการที่ครูปฏิบัติกับนักเรียนย่างมนุษย์ที่มีคุณค่า
ซึ่งจำแนกได้เป็นสองแบบคือ แบบที่ครูควรลด ได้แก่ การเปรียบเทียบ การประจาน
การตะวาด ใช้ความรุนแรง ชี้โทษ
หลอกให้กลัว และการลดคุณค่า
ส่วนอีกแบบหนึ่งคือแบบที่ครูควรเพิ่ม ได้แก่ การกล่าวชม
การขอบคุณ การเสริมแรง การสร้างภาพพจน์ด้านบวก (วิเชียร ไชยบัง : โรงเรียนนอกกะลา ,
๒๕๕๔)
๒. การสร้างชุมชนและวิถีชุมชน
การสร้างชุมชนให้สะอาด
ร่มรื่น สวยงาม ปลอดภัย
จะทำให้ผู้เรียนอยู่ในบรรยากาศที่เกื้อหนุนเมล็ดพันธ์ที่ดีในจิตใจ ส่วนความเป็นกัลยาณมิตรที่ดีของครูก็จะทำให้นักเรียนรู้สึกอบอุ่น
ปลอดภัย
สัมพันธภาพของคนในชุมชนมีผลต่อบรรยากาศในการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
ดังนั้นการปฏิบัติในวิถีโรงเรียนจะต้องทำอย่างมีความหมาย
มีเหตุผลและคงส้นคงวา ในขณะเดียวกันโรงเรียนยังต้องตระหนักอยู่เสมอว่าผู้ปกครองทุกคนมีส่วนเกื้อกูลต่อความก้าวหน้าของนักเรียน
การสร้างความเข้าใจอย่างต่อเนื่องด้วยวิธีการที่หลากหลาย
จะช่วยให้ผู้ปกครองเห็นความสำคัญต่อการพัฒนาในเชิงจิตวิญญาณ
เมื่อผู้ปกครองได้เรียนรู้วิถีชุมชนจากบทเรียนที่เกิดขึ้นจริงภายในโรงเรียน
ผู้ปกครองก็จะนำกลับไปสู่ชุมชนจริงของตน (วิเชียร
ไชยบัง : จิตศึกษา , ๒๕๕๕)
๓. การจัดกระทำผ่านกิจกรรมจิตศึกษา
ใน
การจัดกิจกรรมจิตศึกษา
ปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ ๒๐ นาที
จัดในช่วงเช้าก่อนที่จะเรียน
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับคลื่นสมอง ปรับอารมณ์ของนักเรียน
ให้นักเรียนมีสติ มีสมาธิ และพร้อมที่จะเรียนรู้ ตัวอย่างกิจกรรม ได้แก่
กิจกรรมกำกับสติที่ไม่ใช่การนั่งสมาธิ
การทำเบรนยิมฝึกการทำงานของสมองสองซีก การทำโยคะเพื่อปรับสมดุลร่างกาย
ซึ่งขณะทำกิจกรรมก็เปิดเสียงดนตรีที่มีลักษณะของคลื่นความถี่ต่ำ
เพี่อเหนี่ยวนำคลื่นสมองของนักเรียนให้มีความถี่ต่ำลงกิจกรรมขอบคุณมอบความ
รักความปารถนาดี (วิเชียร
ไชยบัง : จิตศึกษา , ๒๕๕๕)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น